นายอเล็กซานเดอร์ บารากา ประธานและซีอีโอ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทได้เปิดตัว BMW i7 (บีเอ็มดับเบิลยู ไอ7) รถยนต์ 4 ประตู (ซีดาน) ภายใต้แนวคิด ‘FORWARDISM’ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบีเอ็มดับเบิลยูในการก้าวสู่ศักราชใหม่แห่งสุนทรียภาพแห่งการขับขี่ ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ซึ่งเปิดตัวพร้อมกัน 3 รุ่นย่อย ได้แก่
BMW i7 xDrive60 M Sport (First Edition)
BMW i7 xDrive60 M Sport
BMW i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso
บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ ในเจเนอเรชั่นใหม่นี้ อัดแน่นไปด้วยฟีเจอร์ที่เน้นการใช้งานแต่หรูหราทั้งการออกแบบภายนอกและภายใน สะกดทุกสายตาด้วยกลิ่นอายความสปอร์ต ภายนอกตกแต่งด้วยวัสดุสีดําเงาและสปอยเลอร์หลังดีไซน์ M ตอกย้ำถึงคุณภาพระดับพรีเมียม รูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวปราดเปรียวบริเวณตัวถังด้านหลังเน้นการออกแบบเส้นสายแนวนอน มอบความรู้สึกโอ่อ่าและทรงพลัง ให้กับตัวรถ ตกแต่งด้วยวัสดุโครเมียมที่ด้านล่างเพื่อสะท้อนความสง่างามเหนือระดับ ด้านบนเป็นไฟรูปตัว ‘L’ ที่มาพร้อมรูปทรงเรขาคณิตแบบกระจกเป็นครั้งแรก เสริมให้ไฟท้ายดูโดดเด่นยิ่งขึ้น
การออกแบบไฟหน้าทรงกลมและกระจังหน้าอันเป็นเอกลักษณ์พร้อมกรอบเรืองแสงของบีเอ็มดับเบิลยู ได้รับการตีความใหม่ทั้งหมดเพื่อสะท้อนรูปลักษณ์ให้ทันสมัยและโดดเด่นยิ่งขึ้น ไฟหน้า Adaptive LED ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานพร้อมระบบปรับองศาเมื่อเข้าโค้ง ชุดไฟหน้าคริสตัลสวารอฟสกี้ ‘Iconic Glow’ ประกอบด้วยไฟ LED จำนวน 22 ดวง ที่ส่องสว่างผ่านคริสตัลจากด้านหลัง และกระจังหน้าเรืองแสงเป็นประกาย เป็นเอกลักษณ์ของรถยนต์รุ่นนี้ นอกเหนือจากความประณีตแล้ว ฟีเจอร์ นี้ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของประสบการณ์การต้อนรับที่น่าประทับใจ ด้วยการแสดงกราฟฟิกแสงระยิบระยับเมื่อผู้ขับขี่เข้าใกล้ตัวรถ เริ่มจากกระจังหน้าทรงไตคู่ไปจนถึงไฟหน้าคริสตัล และไฟส่องพื้นที่ทำให้นึกถึงคริสตัลหรูหรา
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู i7 ยังมาพร้อมระบบปลดล็อกประตูอัจฉริยะ (Comfort Access System) ให้ผู้ขับขี่สามารถปลดล็อกและสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจ พร้อมระบบช่วยผ่อนแรงกระแทกขณะปิดประตู ในบีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport และบีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ยังมาพร้อมระบบเปิดและปิดประตูอัตโนมัติ
บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ มาพร้อมขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัว พละกำลังรวม 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 745 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า BMW xDrive และเทคโนโลยี BMW eDrive เจเนอเรชั่นที่ 5 ซึ่งมาพร้อมแบตเตอรี่แรงดันสูงที่ 105.7 กิโลวัตต์ชั่วโมงแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน สามารถวิ่งได้ 625 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP อัตราเร่ง0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 4.7 วินาที และความเร็วสูงสุดที่ 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยการขับขี่รุ่น Professional ระบบควบคุุมความเร็วอัตโนมัติ และฟังก์ชัน Stop & Go ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบปรับองศาของล้อหลังเพื่อการเข้าโค้งหรือเลี้ยว (Integral Active Steering) ทำให้การบังคับทิศทางง่ายยิ่งขึ้นขณะเข้าโค้งหรือจอดรถ ทั้งสามรุ่นย่อยมาพร้อมช่วงล่างแบบถุงลมปรับระดับอัตโนมัติ ในขณะที่ระบบควบคุมช่วงล่าง Executive Drive Pro ที่ติดตั้งมาเป็นพิเศษในบีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย
ไร้ข้อจำกัดจึงช่วยให้การขับขี่คล่องตัวในทุกสถานการณ์ บีเอ็มดับเบิลยู i7 ยังอัดแน่นด้วยระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ควบคุมระบบความปลอดภัยเมื่อเกิดการชน (Crash Sensor) ระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side Impact Protection) ระบบสร้างเสียงจำลองเตือนผู้ใช้ถนนรอบข้าง ระบบปกป้องคนเดินถนนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) นอกจากนี้ยังมีระบบ Anti-lock braking system (ABS) ป้องกันไม่ให้ล้อล็อกหรือหยุดหมุนขณะเบรกและระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) ส่งผลให้ระยะเบรกสั้นลง บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso มาพร้อมกับล้ออัลลอย M aerodynamic ขนาด 21 นิ้ว ตกแต่งสี Titanium Bronze ขัดเงาลายสามมิติ
ในขณะที่บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport (First Edition) และบีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport มาพร้อมล้ออัลลอย M น้ำหนักเบา ขนาด 21 นิ้ว แบบสลับสี
บีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ ผสานเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ล่าสุดพร้อมความสบายในการขับขี่ระยะไกล อาทิ ระบบ ‘My Modes’ รุ่นใหม่และระบบปฏิบัติการ BMW iDrive รุ่นล่าสุด ช่วยให้ผู้ขับขี่ปรับโหมดการขับขี่และบรรยากาศภายในรถได้ดังใจ พร้อมจอแสดงผลดิจิทัลแบบโค้ง BMW Curved Display, แถบ BMW Interaction Bar, ระบบผู้ช่วย BMW Intelligent Personal Assistant ที่พัฒนาขึ้นอีกขั้น, หน้าจอ BMW Head-up Display และฟังก์ชัน Augmented View ที่ติดตั้งมาเป็นครั้งแรกบนจอแสดงข้อมูลหลังพวงมาลัย ช่วยให้ผู้ขับขี่และรถยนต์สื่อสารและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าที่เคย นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู i7 ยังมาพร้อมระบบจำลองเสียงเครื่องยนต์ BMW IconicSounds Electric ทำให้ผู้โดยสารสัมผัสกับเสียงการเดินรถอันเป็นเอกลักษณ์จาก Hans Zimmer ซึ่งได้รับการออกแบบให้เป็นเอกลักษณ์สำหรับทุกโหมดการขับขี่
ห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ มาพร้อมเบาะนั่งแบบมัลติฟังก์ชันครบครับทั้งสำหรับผู้ขับขี่ ผู้โดยสารตอนหน้า และผู้โดยสารตอนหลัง มาพร้อมฟังก์ชันนวดผ่อนคลายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหลัง รวมถึงระบบอุ่นเบาะทุกที่นั่ง ระบบระบายอากาศสำหรับเบาะที่นั่ง และระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 4 โซน เพิ่มการไหลเวียนอากาศในห้องโดยสารและมอบคุณภาพอากาศที่ดีให้กับผู้โดยสาร ทั้งสามรุ่นยังมาพร้อมวัสดุบุหลังคา M Alcantara ส่วนภายในตัวรถตกแต่งด้วยวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ถักด้วยวัสดุสีเงินแบบ M คอนโซลกลางสีดำเงาแบบ Piano Finish Black
ระบบ BMW Live Cockpit Professional มอบความสะดวกสบายและแสดงข้อมูลรถยนต์โดยไม่รบกวนสมาธิระหว่างขับขี่บนท้องถนน ระบบ BMW ConnectedDrive รวบรวมบริการดิจิทัลที่เชื่อมต่อรถยนต์กับโลกภายนอกได้อย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ ยังอุ่นใจด้วยระบบตรวจสอบระยะไกล Telematics Service และ การให้บริการด้านการจราจร ทั้งยังสะดวกสบายด้วยระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มือถือ และระบบความบันเทิงต่าง ๆ ในตัวรถ
หลังคากระจกพาโนรามา ‘Sky Lounge’ ที่ออกแบบขึ้นมาใหม่ยังให้ความรู้สึกโอ่อ่า กว้างขวางและสะดวกสบาย นอกจากกระจกบานใหญ่แล้ว ยังมีเส้นแสง LED อัจฉริยะที่ปรับเปลี่ยนได้ทุกเส้น เติมเต็มให้บรรยากาศในห้องโดยสารให้หรูหราขึ้นอีกระดับ
ห้องโดยสารด้านหลังของบีเอ็มดับเบิลยู i7 ใหม่ ผู้โดยสารจะได้พบกับระบบบันเทิงเหนือระดับ โดดเด่นด้วย BMW Theatre Screen หน้าจอแบบพาโนรามาขนาด 31.3 นิ้ว มาในรูปแบบ 32:9 และความละเอียดระดับ 8K ที่ทอดยาวลงมาจากหลังคา และแปลงโฉมเบาะที่นั่งตอนหลังให้เป็นโรงภาพยนตร์เคลื่อนที่ส่วนตัวสุดพิเศษ โดยผู้โดยสารสามารถปรับเปลี่ยนเบาะที่นั่งด้านหลังให้กลายเป็นเลาจน์ส่วนตัว และเลือกโปรแกรมความบันเทิงที่ชื่นชอบจากหลากหลายตัวเลือกการสตรีมมิ่ง ที่สามารถรับชมได้อย่างเพลิดเพลินขณะโดยสารรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่ที่ดีและเหนือชั้นที่สุดในขณะนี้ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทางคุณภาพสูง Bowers & Wilkins Diamond กับการวางตำแหน่งลำโพงที่การันตีได้ว่าทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะสามารถเพลิดเพลินไปกับคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด จากลำโพงที่ติดตั้งมาในตัวรถรวมทั้งหมดกว่า 39 ตัว ให้ประสิทธิภาพเสียงกว่า 1,965 วัตต์
สำหรับราคาจำหน่าย บีเอ็มดับเบิลยู i7 มีดังนี้
บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport (First Edition)ราคาจำหน่าย: 7,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport ราคาจำหน่าย: 7,849,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
บีเอ็มดับเบิลยู i7 xDrive60 M Sport Gran Lusso ราคาจำหน่าย: 8,599,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา BSI Standard นาน 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง)
หลังจากการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู i7 เป็นครั้งแรกในประเทศไทย บีเอ็มดับเบิลยูยังเตรียมเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 7 ใหม่ ปลั๊กอินไฮบริด รุ่นประกอบในประเทศ ในปี พ.ศ. 2566 เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการนำเสนอแนวคิดพลังแห่งทางเลือก (Power of Choice) ที่จะมาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟน ๆ ชาวไทย